An
Assessment of Ambulance Interior Design for Safety Work in a Provincial
Hospital Network
พิพัฒน์
ลักษมีจรัลกุล* สิริกุล พิพิธแสงจันทร์**
ดุสิต
สุจิรารัตน์*** พิศิษฐ์ วัฒนสมบูรณ์****
Pipat
Luksamijarulkul* Sirikun Pipitsangjan**
Dusit
Sujirarat*** Pisit Vatanasomboon****
* ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
** โรงพยาบาลสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
***
ภาควิชาระบาดวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
****
ภาควิชาวิทยาศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล
*
Department of Microbiology, Faculty of Public Health, Mahidol University .
**
Surin Hospital, Amphoe Maeng, Surin Province .
***
Department of Epidemiology, Faculty of Public Health, Mahidol University
****
Department of Environmental Health Science, Faculty of Public Health, Mahidol
University
วัตถุประสงค์ : ประเมินความเหมาะสมของการออกแบบภายในรถและความพร้อมของอุปกรณ์ที่จำเป็นในการป้องกันความเสี่ยงจากการปฏิบัติงาน
วิธีการ :
- ประเมินความเหมาะสมของการออกแบบภายในรถและความพร้อมของอุปกรณ์ที่จำเป็นในการป้องกันความเสี่ยงจากการปฏิบัติงาน จำนวน 47 คัน ของโรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่งและโรงพยาบาลเครือข่าย
- สัมภาษณ์บุคลากรที่ปฏิบัติงานจำนวน 35 คน ถึงความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของการออกแบบภายในรถ
- ติดตามสังเกตในขณะที่มีการปฏิบัติการจริงจำนวน 30 คันๆ ละ 1 เที่ยวรอบวิ่ง
ร้อยละ 74.5 เป็นรถพยาบาลฉุกเฉินรุ่นใหม่
มีส่วนกั้นแยกช่วงหน้าห้องคนขับรถออกจากช่วงหลังซึ่งจัดเป็นห้องพยาบาลรวมทั้งช่องหน้าต่างที่เปิดเลื่อนได้เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร
ร้อยละ 83 มีระบบระบายอากาศไฟฟ้า
ร้อยละ 93.6 มีตู้เก็บอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ที่มิดชิด
ร้อยละ 97.9 มีเตียงผู้ป่วยแบบมีล้อเลื่อน
ร้อยละ 91.5 มีเวชภัณฑ์ยาอย่างพอเพียงแต่มากกว่า
ร้อยละ 50 ยังขาดอุปกรณ์กู้ภัยฉุกเฉินประจำในรถ
-เมื่อพิจารณาถึงอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อการป้องกันการติดเชื้อและการบาดเจ็บในขณะปฏิบัติงาน
พบว่า ร้อยละ 25.5 มีอุปกรณ์ป้องกันตา ร้อยละ 53.2 มีอุปกรณ์สำหรับรัดเพื่อความปลอดภัยขณะรถวิ่งหรือหยุดกะทันหัน
-ข้อมูลจากการสัมภาษณ์บุคลากรที่ปฏิบัติงาน
พบว่า ร้อยละ 80 มีความเห็นด้วยกับการมีส่วนกั้นแยกระหว่างส่วนคนขับกับส่วนผู้ป่วย
ร้อยละ 91.4
มีความเห็นว่าในส่วนผู้ป่วยควรสามารถรองรับผู้ป่วยและบุคลากรได้อย่างน้อย 3 คน เป็นต้น
-ข้อมูลจากการสังเกตขณะปฏิบัติงาน
พบว่า รถพยาบาลฉุกเฉินเกือบทุกคัน (27/30 คัน)
ภาชนะใส่ของมีคมและถังขยะติดเชื้อไม่มีการติดตั้งที่มั่นคง
อาจทำให้เกิดอันตรายได้รถทุกคันผู้ปฏิบัติงานไม่มีการเปิดระบบระบายอากาศและไม่ได้ปรับอุณหภูมิภายในรถตามเกณฑ์
ข้อเสนอแนะ : ควรมีการปรับปรุงการออกแบบภายในรถพยาบาลฉุกเฉินให้มีความเหมาะสมกับการปฏิบัติงานนอกจากนี้ต้องมีการดูแลและการเตรียมความพร้อมการใช้รถเพื่อความปลอดภัยและการลดความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานด้วย
คำสำคัญ:
รถพยาบาลฉุกเฉิน, การออกแบบภายในรถ, ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน,
การบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน
Credit : วารสารสาธารณสุขศาสตร์ 2554;
41(3): 209 – 218