วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การศึกษาเบื้องต้นเพื่อลดอาการปวดหลังของเกษตรกร : กรณีศึกษาชาวนาใน 3 ตำบลของอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา

Preliminary Study for Low Back Pain Reduction in Farmers : A Case Study of the Paddy Farmers in 3 Sub-Districts of Ranode Districts, Songkla Province

อดุลย์ โอวสุวรรณกุล ภาณุเดช แสงสีดำ ยุทธชัย บรรเทิงจิตร *
สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ สาทร กทม 10120
ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
E-mail: ytc@kmitnb.ac.th*
Adul O-Suwankul Panudech Sangseedam Yuthachai Bunterngchit*
Rajamangala University of Technology Krungthep Sathorn, Bangkok 10120
Department of Industrial Engineering, Faculty of Engineering,
King Mungkut’s University of Technology North Bangkok, Bangsue, Bangkok 10800

E-mail: ytc@kmitnb.ac.th*

วัตถุประสงค์ : เพื่อลดระดับอาการปวดหลังส่วนล่างของชาวนาใน 3 ตำบลของอำเภอระโนดจังหวัดสงขลา

กลุ่มตัวอย่าง : ชาวนาชายที่มีปัญหาการปวดหลัง 10 คน

ขั้นตอนการวิจัย :
1. ศึกษารายสะเอียดของวิธีการทำงาน และท่าทางการยกกระสอบข้าวขึ้นรถบรรทุก
2. วัดคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อในขณะทำงานโดยใช้เครื่องมือวัดคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ(Electromyography : EMG)
3. วิเคราะห์ท่าทางการทำงานด้วยเทคนิค Rapid Upper Limb Assessment (RULA)
4. คำนวณหาค่า Compressive force ที่กระทำบริเวณ หลังส่วนล่างในขณะปฏิบัติงาน
5. ค้นหาแนวทางการแก้ไขโดยออกแบบท่ายกกระสอบข้าวแบบใหม่ที่เหมาะสมต่อการทำงาน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย
6. วัดคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ (EMG) วิเคราะห์ท่าทางการทำงานด้วยเทคนิค Rapid Upper Limb Assessment (RULA) คำนวณหาค่า Compressive force ที่กระทำตรง L5/S1 อีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่มีการ แก้ไขปรับปรุงและสรุปผล
จากการใช้แบบสัมภาษณ์กับชาวนาชายที่มีปัญหาการปวดหลัง 10 คน พบว่าค่าดัชนีความไม่ปกติ(AI) สูงสุดมีค่า 3.8 และค่าเฉลี่ยเป็น 2.96(±0.5) จึงสมควรหาวิธีแก้ไขปัญหา

ผลการศึกษา :
ค่าเฉลี่ยของอัตราส่วนสัญญาณของกล้ามเนื้อที่วัดโดยวิธีมาตรฐานคือ Erector Spinae (L), Erector Spinae (R),Multifidus (L), และ Multifidus (R) มีค่าเฉลี่ยเป็น 1.84,1.86, 1.67 และ1.81 ตามลำดับ
ผลการวิเคราะห์ท่าทางการทำงานมีค่า RULA เฉลี่ย 7(±0.0) ในขณะยกกระสอบข้าวหนัก 100 กิโลกรัม ได้ค่าแรงกดที่หมอนรองกระดูก L5/S1 เฉลี่ยสูงสุด 7,243.7(±491.8) N
จากการวิเคราะห์หาสาเหตุของการปวดหลังพบว่ามาจากท่าทางการยกที่ไม่ถูกต้องมีการก้มหลังในการยกจึงได้กำหนดให้มีการฝึกอบรมวิธีการยกที่ถูกวิธีโดยการย่อเข่าซึ่งมีผลทำให้สัดส่วนของสัญญาณ EMG ที่กล้ามเนื้อดังกล่าวมีค่า0.91, 1.07, 1.33 และ1.47(μν) ตามลำดับ โดยสัดส่วนของ 3 ค่าแรกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) สำหรับค่าRULA เฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง และสำหรับค่าเฉลี่ยของแรงกดที่หมอนรองกระดูก L5/S1 มีค่าลดลงเป็น5,920.8(±631.9) N หรือลดลงร้อยละ 18.3 และจากการใช้แบบสัมภาษณ์กับผู้ถูกทดลอง 10 คน ได้ค่า AI สูงสุดเป็น 3.3 และค่าเฉลี่ยเป็น 2.5(±0.4) ลดลงร้อยละ 15.2

คำสำคัญ : กล้ามเนื้อหลัง สัญญาณไฟฟ้ากล้ามเนื้อ แรงกดที่หมอนรองกระดูก

Credit : การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ประจำปี พ.ศ. 2551 20-22 ตุลาคม 2551