Preliminary Study for Low Back Pain Reduction in Farmers : A
Case Study of the Paddy Farmers in 3 Sub-Districts of Ranode Districts, Songkla
Province
อดุลย์
โอวสุวรรณกุล ภาณุเดช แสงสีดำ ยุทธชัย บรรเทิงจิตร *
สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหการ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ สาทร กทม 10120
ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
E-mail:
ytc@kmitnb.ac.th*
Adul
O-Suwankul Panudech Sangseedam Yuthachai Bunterngchit*
Rajamangala
University of Technology Krungthep Sathorn, Bangkok 10120
Department
of Industrial Engineering, Faculty of Engineering,
King
Mungkut’s University of Technology North Bangkok, Bangsue, Bangkok 10800
E-mail:
ytc@kmitnb.ac.th*
วัตถุประสงค์ : เพื่อลดระดับอาการปวดหลังส่วนล่างของชาวนาใน 3
ตำบลของอำเภอระโนดจังหวัดสงขลา
กลุ่มตัวอย่าง : ชาวนาชายที่มีปัญหาการปวดหลัง 10 คน
ขั้นตอนการวิจัย :
1. ศึกษารายสะเอียดของวิธีการทำงาน
และท่าทางการยกกระสอบข้าวขึ้นรถบรรทุก
2. วัดคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อในขณะทำงานโดยใช้เครื่องมือวัดคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ(Electromyography
: EMG)
3.
วิเคราะห์ท่าทางการทำงานด้วยเทคนิค Rapid Upper Limb Assessment (RULA)
4. คำนวณหาค่า Compressive
force ที่กระทำบริเวณ หลังส่วนล่างในขณะปฏิบัติงาน
5. ค้นหาแนวทางการแก้ไขโดยออกแบบท่ายกกระสอบข้าวแบบใหม่ที่เหมาะสมต่อการทำงาน
เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย
6. วัดคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ (EMG)
วิเคราะห์ท่าทางการทำงานด้วยเทคนิค Rapid Upper Limb Assessment
(RULA) คำนวณหาค่า Compressive force ที่กระทำตรง
L5/S1 อีกครั้งหนึ่ง
ภายหลังจากที่มีการ แก้ไขปรับปรุงและสรุปผล
จากการใช้แบบสัมภาษณ์กับชาวนาชายที่มีปัญหาการปวดหลัง
10 คน พบว่าค่าดัชนีความไม่ปกติ(AI) สูงสุดมีค่า 3.8 และค่าเฉลี่ยเป็น 2.96(±0.5) จึงสมควรหาวิธีแก้ไขปัญหา
ผลการศึกษา :
ค่าเฉลี่ยของอัตราส่วนสัญญาณของกล้ามเนื้อที่วัดโดยวิธีมาตรฐานคือ
Erector
Spinae (L), Erector Spinae (R),Multifidus (L), และ Multifidus
(R) มีค่าเฉลี่ยเป็น 1.84,1.86, 1.67 และ1.81 ตามลำดับ
ผลการวิเคราะห์ท่าทางการทำงานมีค่า
RULA
เฉลี่ย 7(±0.0) ในขณะยกกระสอบข้าวหนัก 100 กิโลกรัม ได้ค่าแรงกดที่หมอนรองกระดูก L5/S1
เฉลี่ยสูงสุด 7,243.7(±491.8) N
จากการวิเคราะห์หาสาเหตุของการปวดหลังพบว่ามาจากท่าทางการยกที่ไม่ถูกต้องมีการก้มหลังในการยกจึงได้กำหนดให้มีการฝึกอบรมวิธีการยกที่ถูกวิธีโดยการย่อเข่าซึ่งมีผลทำให้สัดส่วนของสัญญาณ
EMG
ที่กล้ามเนื้อดังกล่าวมีค่า0.91, 1.07, 1.33
และ1.47(μν) ตามลำดับ โดยสัดส่วนของ 3 ค่าแรกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
(p<0.05) สำหรับค่าRULA เฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง
และสำหรับค่าเฉลี่ยของแรงกดที่หมอนรองกระดูก L5/S1
มีค่าลดลงเป็น5,920.8(±631.9) N หรือลดลงร้อยละ 18.3 และจากการใช้แบบสัมภาษณ์กับผู้ถูกทดลอง 10 คน
ได้ค่า AI สูงสุดเป็น 3.3
และค่าเฉลี่ยเป็น 2.5(±0.4) ลดลงร้อยละ 15.2
คำสำคัญ :
กล้ามเนื้อหลัง สัญญาณไฟฟ้ากล้ามเนื้อ แรงกดที่หมอนรองกระดูก
Credit : การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ
ประจำปี พ.ศ. 2551 20-22 ตุลาคม 2551