Occupational
Health Hazards, Work-Related Illness and Injury, Work Behaviors among Informal
Workforce : Case Study in Baby Corn Planting Farmer Group
ชวพรพรรณ
จันทร์ประสิทธิ์*, ธานี แก้วธรรมานุกูล*
*คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Chawapornpan
Chanprasit, Thanee Kaewthummanukul
*Faculty
of Nursing Chiang Mai University
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาปัจจัยคุกคามสุขภาพ
การเจ็บป่วยและบาดเจ็บที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงาน
รวมทั้งพฤติกรรมการทำงานในแรงงานนอกระบบเกษตรกรปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
กลุ่มตัวอย่าง : ขนาดกลุ่มตัวอย่างคำนวณตามสัดส่วนของขนาดกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเกษตรกรปลูกข้าวโพดฝักอ่อนอย่างน้อย 116 คน คัดเลือดกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนดได้กลุ่มตัวอย่าง 130 คน
การเก็บข้อมูล : รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่ผ่านการตรวจสอบความตรงด้านเนื้อหาและทดสอบความเชื่อมั่น
ผลการศึกษา :
1. การสัมผัสปัจจัยคุกคามสุขภาพจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เด่นชัด
ได้แก่ ด้านการยศาสตร์และด้านเคมี
2. ส่วนสภาพการทำงานที่สำคัญ
คือ การทำงานกับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ของมีคม
3. การเจ็บป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานที่พบในสัดส่วนที่สูง
คือ อาการปวดศีรษะและปวดระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ
ขณะที่การบาดเจ็บในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่าหนึ่งในสามส่วนพฤติกรรมการทำงาน
ส่วนใหญ่มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
แต่ทุกคนไม่มีการสวมปลั๊กอุดหูขณะใช้รถไถแปลงข้าวโพด
กว่าหนึ่งในสี่ยังมีการใช้รถไถที่ไม่มีการใช้รถไถที่ไม่มีเครื่องป้องกันส่วนที่เป็นอันตรายและเกือบหนึ่งในสามของเกษตรกรยังคงเข้าไปในแปลงข้าวโพดฝักอ่อนในระยะ
3 วันหลังพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
ผลการวิจัยครั้งนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับทีมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการริเริ่มดำเนินการจัดบริการด้านอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมสร้างเสริมความปลอดภัยในการทำงานสำหรับแรงงานนอกระบบกลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
พัฒนาโปรแกรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงในการทำงาน
โปรแกรมที่ควรพัฒนาในลำดับแรกคือ โปรแกรมด้านการยศาสตร์ และการสื่อสารความเสี่ยงด้านสารเคมี
โปรแกรมดังกล่าวควรมีกิจกรรมสำคัญครอบคลุมประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. การพัฒนาระบบการเฝ้าระวังทางสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของปัจจัยคุกคามสุขภาพโดยเฉพาะด้านการยศาสตร์และเคมีเป็นการเสริมสร้างความตระหนักในปัจจัยคุกคามสุขภาพและความเสี่ยงในการทำงาน
คงไว้ซึ่งสภาพการทำงานที่ปลอดภัย
2. การสื่อสารความเสี่ยง (risk
communication) โดยการประสารความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาการอบรมและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสุขภาพ
ร่วมกับการจัดระบบการทำงานที่เป็นไปได้ในส่วนของปัจจัยคุกคามสุขภาพด้านการยศาสตร์
ปัจจัยคุกคามสุขภาพด้านเคมีเน้นการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลเพื่อป้องกันพิษของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชต่อภาวะสุขภาพ
3. การพัฒนาระบบการเฝ้าระวังสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าข้อมูลการบาดเจ็บจากการทำงานของกลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
เป็นการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรง แต่ข้อมูลการเจ็บป่วย เช่น ปวดศีรษะ
ปวดระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ อาจเป็นการบาดเจ็บเกี่ยวเนื่องจากงาน
จึงควรให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังสุขภาพร่วมกับการพัฒนาระบบการรายงานการบาดเจ็บจากการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อประมวลข้อมูลด้านสุขภาพของแรงงานนอกระบบ
เป็นพื้นฐานการพัฒนาฐานข้อมูลสุขภาพต่อไป
คำสำคัญ : ปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการทำงาน
การเจ็บป่วยและบาดเจ็บที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานพฤติกรรมการทำงาน แรงงานนอกระบบ
กลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
Credit : วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2553