Maximum Level of
Noise That Can Be Recovered to Normal
Before the Next
Working Shift
นพพร
บุญประดับ1* สมชาย พรชัยวิวัฒน์ 2 ยุทธชัย บรรเทิงจิตร3
1,2,3ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
1518 ถนนพิบูลสงคราม
บางซื่อ กทม 10800
E-mail: aunnopphon@hotmail.com*
Nopphon Boonyapradub1* Somchai
Pornchaivivat2 Yuthachai Bunterngchit3
1,2,3 Department of
Industrial Engineering, King Mongkut’s Institute of Technology
1518 Pibulsongkram Rd., Bangsue,
Bangkok 10800
E-mail: aunnopphon@hotmail.com *
วัตถุประสงค์ : การกำหนดระดับเสียงที่เป็นอันตรายต่อการได้ยิน
วิธีการ : ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของ ระดับการเริ่มได้ยินของหูของพนักงานหญิงจำนวน
120 คน มีอายุระหว่าง 18-26 ปี อายุงานระหว่าง
0-2 ปี และ มีระดับการได้ยินปกติโดยศึกษา 30 คนต่อ
1 ระดับเสียง อาสาสมัครไม่ใส่อุปกรณ์ปกป้องอันตรายส่วนบุคคล
(PPD/PPE) และมีลำดับการทดลองแบบสุ่ม โดยทดลอง คนละ 24 ครั้ง ก่อนและหลังการทำงานแต่ละวัน โดยใช้ โปรแกรม MINITAB V.13 มาวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัย : จากการทดลองนี้และสรุปว่า
(1) แผนกขึ้นรูปโรงงานกระเบื้องดิน
เผาและเซรามิกมีระดับเสียง 73.96 dB(A)ระดับการเริ่ม ได้ยินเฉลี่ยก่อนและหลังการทำงานไม่มีความแตกต่างกัน
(2) แผนกลงคัดเลือก ในโรงงานเดียวกันมีระดับเสียง
82.95 dB(A) ระดับการเริ่มได้ยินเฉลี่ยก่อน และ หลัง การทำงานไม่มีความแตกต่างกัน
(3) แผนก A-POLY โรงงานทออวนมีระดับเสียง 90.08 dB(A) ระดับการเริ่มได้ยินเฉลี่ยก่อนและหลังมีความ
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ (p<0.05) มีค่าเฉลี่ยระดับการได้ยินที่ความถี่
500-2000 Hz เท่ากับ 22.44 dB ซึ่ง อยู่ในระดับหูปกติโดยแนวโน้มเริ่มเข้าใกล้ระดับหูตึง
เล็กน้อย และผลต่างการเริ่มได้ยินก่อนทำงานใน 2 วัน ติดต่อกันเฉลี่ย
13.2 dB
(4) แผนกทอผ้าชั้น2
โรงงานทอ ผ้า มีระดับเสียง 101.97 dB(A) ระดับการเริ่มได้ยินเฉลี่ย
ก่อนและหลังมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ (p<0.05) มีค่าเฉลี่ยระดับการได้ยินที่ความถี่
500-2000 Hz เท่ากับ 25.58 dB ซึ่งอยู่ในระดับหูตึงน้อยและผลต่าง
การเริ่มได้ยินก่อนทำงานใน 2 วันติดต่อกันเฉลี่ย 22.5
dB
สรุป : ได้ว่าระดับเสียงที่เป็นอันตรายต่อหู เริ่มขึ้นที่ ระดับเสียงเฉลี่ย
90.08 dB(A)
คำสำคัญ : การสูญเสียการได้ยิน ระดับการเริ่มได้ยิน ระดับการเริ่มได้ยินปกติ
Credit : การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ 24-26 ตุลาคม 2550