Work
- related Musculoskeletal Injuries and Work Safety Behaviors Among Call Center
Workers.
ฐิติชญา
ฉลาดล้น*
พิมพ์ลดา
อนันต์สิริเกษม*
* พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี
จักรีรัช
Thitichaya
Chalardlon*
Phimlada
Anansirikasem**
*
Nurse Instructor, Boromarajonani College of Nursing, Chakriraj
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษา
1) การบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงาน
2) พฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัย
3) ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัยและการบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานของพนักงานศูนย์บริการให้ข้อมูล
แห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพมหานคร
จำนวน 323 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) ข้อมูลส่วนบุคคล
2) ข้อมูลการบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงาน
3) ข้อมูลพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงาน
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้สถิติทดสอบไคสแควร์
ผลการวิจัย : พบว่า
อัตราการเกิดการบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานของกลุ่มตัวอย่างในช่วงระยะเวลา
12 เดือน และ 7 วันที่ผ่านมา เท่ากับ ร้อยละ
74.0 และร้อยละ 60.40 ตามลำดับ
ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา พบการบาดเจ็บบริเวณคอ ร้อยละ 61.08
บริเวณหลังส่วนบนร้อยละ 55.68 และบริเวณหลังส่วนล่าง ร้อยละ 53.14
ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบการบาดเจ็บบริเวณหลังส่วนล่าง ร้อยละ 58.46 บริเวณคอร้อยละ 51.28 และบริเวณหลังส่วนบนร้อยละ 50.26
นอกจากนี้ยังพบว่า
การบาดเจ็บส่งผลกระทบต่อการทำงานและกิจวัตรประจำวันของกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 17.00 ในด้านพฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัย
เมื่อพิจารณาในรายด้านพบว่า
กลุ่มตัวอย่าง
-ร้อยละ67.50 มีพฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัยด้านการปรับท่าทางการทำงานในระดับปานกลาง
-การพักช่วงระหว่างการทำงาน
อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 52.30
-การจัดสถานที่ทำงานและอุปกรณ์การทำงาน
อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 88.9
-การเลือกใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือการทำงานกับคอมพิวเตอร์
ระดับปานกลางร้อยละ 80.50
นอกจากนี้ยังพบว่า
พฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานโดยรวมไม่มีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในช่วงเวลา
12 เดือนที่ผ่านมา
แต่เมื่อพิจารณารายด้าน
พบว่าพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานด้านการพักระหว่างการทำงาน
มีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
(p < 0.05)
ในช่วงเวลา
7
วันที่ผ่านมาพบว่าพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานด้านการพักระหว่างการทำงาน
และด้านการจัดสถานที่ทำงานและอุปกรณ์การทำงานมีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05)
Credit : วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข